สำนักข่าวต่างประเทศรายงานวันที่ 27 พ.ค. ว่า ตำรวจสากล ร่วมกับเอฟบีไอ และตำรวจท้องถิ่นของสวิตเซอร์แลนด์ เข้าทำการจับกุมผู้บริหารระดับสูงของสหพันธ์ฟุตบอลนานาชาติ หรือฟีฟ่า ในข้อหาทุจริตจากการโหวตเลือกประเทศเจ้าภาพฟุตบอลโลก ในปี 2018 และ 2022
โดยสำนักข่าวซีเอ็นเอ็น รายงานว่า ตำรวจสวิตเซอร์แลนด์ในเมืองซูริก บุกจับกุมเจ้าหน้าที่ระดับสูงของสหพันธ์ฟุตบอลนานาชาติ หรือ ฟีฟ่า 6 คน ตามคำขอของกระทรวงยุติธรรมสหรัฐฯ ที่ได้ดำเนินการยื่นฟ้องดำเนินคดีในข้อหารับเงินสินบนกว่า 100 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ รวมทั้งข้อหาอีกหลายกระทง โดยเจ้าหน้าที่ระดับสูงฟีฟ่าทั้ง 6 คน จะต้องถูกส่งตัวในฐานะผู้ร้ายข้ามแดนไปยังสหรัฐฯ
ซีเอ็นเอ็น ระบุว่า ตำรวจเมืองซูริกได้ยกกำลังกว่าสิบนาย บุกจับเจ้าหน้าที่ระดับสูงของฟีฟ่าที่โรงแรมหรู 5 ดาว ในเมืองซูริก ขณะที่พำนักที่โรงแรมแห่งนี้ เพื่อเตรียมตัวร่วมการประชุมประจำปี และจะมีการเลือกตั้งประธานฟีฟ่าคนใหม่ ในวันศุกร์ที่ 29 พ.ค.นี้
ในการปฏิบัติการครั้งนี้ ตำรวจนอกเครื่องแบบจำนวนหนึ่ง ได้บุกเข้ารวบตัวผู้บริหารระดับสูงของฟีฟ่าคาห้องพัก ซึ่งทั้ง 6 คนไม่ทราบล่วงหน้ามาก่อน และได้นำผู้ต้องหาทั้งหมดออกจากโรงแรมที่พักไปด้วยดี โดยไม่มีการใส่กุญแจมือแต่อย่างใด
ด้านสำนักข่าวบีบีซี ได้ยืนยันรายชื่อเจ้าหน้าที่ระดับสูง 4 ใน 6 คน ออกมาแล้ว ได้แก่ 1.นายเอ็ดดัวร์โด ลี (อุรุกวัย) 2.นายเจฟฟรีย์ เวบบ์ รองประธานลูกหนังโลก จากหมู่เกาะเคย์แมน 3.นายโฆเซ มาเรีย มาริน (บราซิล) 4.นายยูเจนิโอ ฟิกัวราโด (อุรุกวัย)
ส่วนสำนักงานยุติธรรมกลางของสวิส (FOJ) ออกแถลงการณ์เมื่อวันพุธที่ 26 พ.ค.ว่า เจ้าหน้าที่ทางการสหรัฐฯ ต้องสงสัยเจ้าหน้าที่ระดับสูงของฟีฟ่า รับเงินสินบนนับ 100 ล้านดอลลาร์ (3,200 ล้านบาท) นับตั้งแต่ปี ค.ศ.1990-1999 และได้ทำธุรกรรมการเงินผ่านบัญชีธนาคารของสหรัฐฯ
โดยบีบีซี รายงานว่าด้วยว่า เจ้าชายอาลี บิน อัล-ฮุสเซน แห่งจอร์แดน ซึ่งเป็นคู่แข่งชิงตำแหน่งประธานฟีฟ่า แข่งกับ นายเซปป์ แบลตเตอร์ และทีมที่ปรึกษาของพระองค์ จะร่วมประชุมกันในเย็นวันพุธ เพื่อหารือถึงผลกระทบจากการที่เจ้าหน้าที่ระดับสูงฟีฟ่า 6 คน โดนจับกุมในครั้งนี้ ก่อนจะมีการเลือกตั้งประธานฟีฟ่าคนใหม่ ในวันศุกร์ที่ 29 พ.ค.
ขณะที่ นายวรวีร์ มะกูดี นายกสมาคมฟุตบอลแห่งประเทศไทยฯ ซึ่งถูกสื่อบางสำนักรายงานข่าวว่าเป็นหนึ่งในผู้ที่ถูกจับกุม ได้เผยว่า ตนได้ทราบข่าวแล้ว และไม่มีการถูกจับกุมแต่อย่างใด ทั้งนี้ ได้เตรียมรวบรวมหลักฐานเพื่อดำเนินคดีกับสื่อที่ทำให้ตนเองเสื่อมเสียชื่อ เสียง จากเหตุการณ์ในครั้งนี้ด้วยเช่นกัน
นอกจากนี้ สำนักข่าวซีเอ็นเอ็น ได้รายงานเพิ่มเติมอีกว่า เซปป์ แบลต์เตอร์ ประธานฟีฟ่าคนปัจจุบัน ไม่ได้ตกเป็นผู้ต้องหาและโดนจับกุมในครั้งนี้ อย่างไรก็ตาม นายแบลตเตอร์เป็นหนึ่งในเจ้าหน้าที่ระดับสูงของฟีฟ่า ที่จะต้องถูกเจ้าหน้าที่สหรัฐฯ สอบสวนในคดีดังกล่าว ขณะที่คาดว่าจะมีเจ้าหน้าที่ระดับสูงของฟีฟ่าถึง 14 คน ถูกฟ้องในคดีนี้.
0 ความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น